Tipco Tower 2

อาคารที่ถูกสร้างเสริมนี้เป็นการสร้างโดยคำนึงถึงรูปลักษณ์ที่ดูสะอาด และเฉียบคมของอาคารหลังแรก และมีการเพิ่มฟีเจอร์นวัตกรรมทางฟาซาดใหม่เข้าไปด้วย

ระบบฟาซาดหลักของอาคารแห่งนี้คือ ระบบ unitised curtain wall ที่มีความคล้ายคลึงกับอาคารหลังแรก โดยที่ผนังนั้นมีการซ้อนทับกัน และก่อให้เกิดมุมอาคารทั้งด้านอก และด้านใน และ oversail (องค์ประกอบของส่วนขอบที่ยื่นออกไป)

หลาย ๆ ส่วนของที่จอดรถ และมุมของตัวอาคารมีการใช้ระบบ unitised system ติดฟินกระจกด้านนอกที่เป็นเอกลักษณ์ ฟินกระจกด้านนอกนั้นสร้างปัญหาอย่างหนึ่งก็คือ มันต้องสามารถถูกเปลี่ยนได้ในกรณีที่เกิดความเสียหาย แต่มันจะดูสวยกว่าหากตัว bracket ที่รองรับนั้นไม่สามารถถูกมองเห็นได้ มีตัวอย่างการใช้ฟินแก้วด้านนอกหลายตัวหลายครั้งในการทำเปลือกอาคาร แต่เท่าที่เราทราบนั้น นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่เดียวที่ไม่ได้มีการใช้ bracket หรือ clip ด้านนอกที่สามารถมองเห็นได้

ฟาซาด แอสโซซิเอทส์นั้นได้ออกแบบองค์ประกอบแบบ cassette type ที่สามารถเกี่ยวกับตัวลูกฟักแบบพิเศษ จากนั้นตัวฟินกระจกลามิเนตแบบไอโอโนพลาสท์จึงถูกยึดเข้ากับฐาน ทำให้ชิ้นส่วนทั้งหมดนี้สามารถถูกเปลี่ยนใส่ตัวอื่นได้ได้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับฟินตัวอื่นทั้งข้างล่าง และข้างบน

ข้างบนของโพเดี่ยมนั้นมีพื้นที่แบบ double height space ซึ่งเป็นส่วนของสวนที่ถูกผนังกระจกสูงโยงเคเบิ้ลเน็ตพร้อมทั้งมุมทั้งด้านนอก และด้านในกั้นพื้นที่เอาไว้

เนื่องจากตัวเคเบิ้ลเน็ตนั้นมีค่าความโก่งตัวสูง จึงทำให้ทุกมุนนั้น rosolve เข้าหากันยากเพราะผนังพยายามแยกตัวออกจากใต้เมื่อมีการรับน้ำหนัก ฟาซาด แอสโซซิเอทส์จึงแก้ไขปัญหาโดยการนำสายเคเบิ้ลต้านแรงลมออกทั้งหมด และใช้สายความตึงต่ำแบบเส้นบาลงสำหรับการรองรับน้ำหนักคงที่เท่านั้น นอกจากนั้นยังจัดการแรงตึงก่อนของสายเคเบิ้นที่มุมอย่างระมัดระวัง และออกแบบบานพับแบบพิเศษติดกับขอบที่มุมของแผ่นกระจกทั้งสองแผ่น สำหรับบริเวณมุมนั้นใช้ plane มุมฉากสำหรับการรองรับน้ำหนักให้กระจายไปที่บานพับที่หัวมุม นอกจากนี้ ตัวบานพับยังรองรับตัวแปรที่มุมแผ่นกระจกภายใต้การรองรับน้ำหนักโดยที่ไม่ต้องสร้างแรงเค้นให้กับขอบกระจก

ผลลัพธ์ทั้งหมดคือ ตัวอาคารที่ควรคู่กับชื่อเสียงของอาคารแรกที่มีการใส่นวัตกรรมเสริมเพื่ออัปเกรดเข้าไปอีก